วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2551

เรียน วันอังคาร ที่ 24 มิถุนายน 2551

ข้อสอบ ปรนัย 10 ข้อ ( พร้อมเฉลย )
คำสั่งตรวจซ่อม
1. คำสั่ง ping คืออะไร
ก. ค่าต่าง ๆ ภายในเครื่อง
ข. ดูหมายเลข card lan
ค. ตรวจสอบการเชื่อมต่อ
ง. ตรวจสอบการเดินทางไปยังปลายทาง

2. คำสั่ง netstat คืออะไร
ก. ค่าต่าง ๆ ภายในเครื่อง
ข. ดูหมายเลข card lan
ค. ตรวจสอบการเชื่อมต่อ
ง. ดูสถิติในระบบ,สถานะ,protocol

3. คำสั่ง ipconfig คืออะไร
ก. ดูสถิติในระบบ,สถานะ,protocol
ข. ค่าต่าง ๆ ภายในเครื่อง
ค. ดูหมายเลข card lan
ง. ตรวจสอบการเชื่อมต่อ

4. คำสั่ง tracert คืออะไร
ก. ตรวจสอบการเดินทางไปยังปลายทาง
ข. ดูสถิติในระบบ,สถานะ,protocol
ค. ตรวจสอบการเชื่อมต่อ
ง. ค่าต่าง ๆ ภายในเครื่อง

5. ทางคณะทำงานของ IEEE802.3z ได้เสนอการนำอุปกรณ์ Gigabit Ethernet ไปใช้ทดแทนนอุปกรณ์ต่างๆที่มีอยู่แล้วเพื่อเพิ่มความเร็วในการรับส่งข้อมูลโดยแบ่งได้กี่ขั้นตอน
ก. 4 ขั้นตอน
ข. 5 ขั้นตอน
ค. 6 ขั้นตอน
ง. 7 ขั้นตอน

6. เทคนิคหลายอย่างที่นํามาใช้ในการรอคอยเพื่อหลีกเลี่ยงการชนกันซ้ำสอง หนึ่งในนั้นคืออไร
ก. คํานวณการเพิ่มระยะเวลารอคอย
ข. เกิดการส่งพร้อมกันแล้วจะก่อให้เกิดการชนกันของข้อมูล
ค. การรับ/ส่งข้อมูล
ง. ความหมายที่มีอยู่ทั่วไปของอีเทอร์เน็ต

7. อีเทอร์เน็ตและ IEEE 802.3 ร่วมกัน ซึ่งหมายถึงอะไร
ก. อีเทอร์เน็ตจะอ้างถึงเครือข่ายต่าง ๆ
ข. อีเทอร์เน็ตได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยบริษัทซีร็อกซ์
ค. เป็นคำที่สามารถใช้แทนความหมายเดียวกันได้
ง. ที่ตั้งอยู่บนนพื้นฐานของมาตรฐาน IEEE 802.3 นั้นเอง

8. ใครเป็นผู้ร่างแบบเครือข่ายอีเทอร์เน็ตขึ้นมาครั้งแรก
ก. Robert Metcalfe
ข. Digital Eqripment
ค. In-house Tecgnolohy
ง. Packet Radio

9. อีเทอร์เน็ตได้พัฒนามาจากรากฐานบนเครือข่ายอะไร
ก. Robert Metcalfe
ข. Digital Eqripment
ค. In-house Tecgnolohy
ง. Packet Radio

10. อีเทอร์เน็ตใช้สายอะไรเพื่อต่อกับคอมพิวเตอร์หลาย ๆ เครื่อง
ก. สายดาต้า
ข. สายเคเบิล
ค. สาย USB
ง. สายโทรศัพท์


ข้อสอบ ปรนัย 10 ข้อ ( พร้อมเฉลย )
เครือข่ายอินเทอร์เน็ต
1. อีเทอร์เน็ต คืออะไร
ก. การรับ/ส่งข้อมูลในเครือข่าย
ข. ความหมายที่มีอยู่ทั่วไปของอีเทอร์เน็ต
ค. อัตราความเร็วสูงเป็นช่วงๆ
ง. เวลาที่ใช้ในการรอคอยนั้นเป็นค่าที่สุ่มขึ้นมา

2. Exponential มีชื่อเรียกอีอย่างหนึ่งว่าอะไร
ก. Carrier Sense
ข. Multiple Access
ค. Collision
ง. Carrier Sense Multiple Access with Collision Detection (CSMA/CD)

3. ก่อนจะทําการส่งข้อมูลออกไปอีกครั้งหนึ่ง เวลาที่ใช้ในการรอคอยนั้นเป็นค่าแบบใด
ก. คาดคะเน
ข. คิดขึ้นเอง
ค. สุ่มขึ้นมา
ง. ถามคนอื่น

4. ใน ปีค.ศ. 1985 ทาง IEEE ก็ได้ เริ่มพัฒนาโครงการ อะไรขึ้นมา
ก. 802
ข. 803
ค. 804
ง. 805

5. บริษัทซีร็อกซ์ของเขา ได้ท้าทายความสามารถด้วย วิธีการใด
ก. พัฒนาอยู่ในรูปแบบของ In-house Tecgnolohy
ข. แรกเริ่ม อีเทอร์เน็ตได้ใช้สายเคเบิลเส้นเดียวเพื่อต่อกับคอมพิวเตอร์หลาย ๆ เครื่อง
ค. พัฒนาโครงการ 802 ขึ้นมา
ง. การพัฒนาเทคโนโลยีเครือข่ายที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานบนโทโพโลยีแบบบัส (Bus Topolofy)

6. ในการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุดได้กี่ เมกะบิตต่อวินาที
ก. 3 เมกะบิตต่อวินาที
ข. 4 เมกะบิตต่อวินาที
ค. 5 เมกะบิตต่อวินาที
ง. 6 เมกะบิตต่อวินาที






7. การนำข้อมูลแบ่งออกเป็นส่วน ๆที่เรียกว่าอะไร
ก. “บ๊อกเกต”
ข. “แพ็กเกต”
ค. “พ๊อกเกต”
ง. “แบ็กเกต”

8. MAC sub layer ใช้เทคนิคที่เรียกว่าอะไร
ก. physical layer
ข. Broadband
ค. CSMA/CD
ง. frame type

9. Token Package ในการเชื่อมต่อ มีความเร็ว เท่าไร
ก. 2,3 และ 10
ข. 1,4 และ 12
ค. 1,2 และ14
ง. 1, 4, และ 16

10. อีเทอร์เน็ตนั้นใช้วิธีการส่งสัญญาณแบบใด
ก. เบสแบนด์
ข. ดาวเทียม
ค. เสาอากาศ
ง. เครือข่ายโทรศัพท์

ส่งงาน วันอังคาร ที่ 24 มิถุนายน 2551

ข้อสอบ ปรนัย 10 ข้อ ( พร้อมเฉลย )
คำสั่งตรวจซ่อม
1. คำสั่ง ping คืออะไร
ก. ค่าต่าง ๆ ภายในเครื่อง
ข. ดูหมายเลข card lan
ค. ตรวจสอบการเชื่อมต่อ
ง. ตรวจสอบการเดินทางไปยังปลายทาง

2. คำสั่ง netstat คืออะไร
ก. ค่าต่าง ๆ ภายในเครื่อง
ข. ดูหมายเลข card lan
ค. ตรวจสอบการเชื่อมต่อ
ง. ดูสถิติในระบบ,สถานะ,protocol

3. คำสั่ง ipconfig คืออะไร
ก. ดูสถิติในระบบ,สถานะ,protocol
ข. ค่าต่าง ๆ ภายในเครื่อง
ค. ดูหมายเลข card lan
ง. ตรวจสอบการเชื่อมต่อ

4. คำสั่ง tracert คืออะไร
ก. ตรวจสอบการเดินทางไปยังปลายทาง
ข. ดูสถิติในระบบ,สถานะ,protocol
ค. ตรวจสอบการเชื่อมต่อ
ง. ค่าต่าง ๆ ภายในเครื่อง

5. ทางคณะทำงานของ IEEE802.3z ได้เสนอการนำอุปกรณ์ Gigabit Ethernet ไปใช้ทดแทนนอุปกรณ์ต่างๆที่มีอยู่แล้วเพื่อเพิ่มความเร็วในการรับส่งข้อมูลโดยแบ่งได้กี่ขั้นตอน
ก. 4 ขั้นตอน
ข. 5 ขั้นตอน
ค. 6 ขั้นตอน
ง. 7 ขั้นตอน

6. เทคนิคหลายอย่างที่นํามาใช้ในการรอคอยเพื่อหลีกเลี่ยงการชนกันซ้ำสอง หนึ่งในนั้นคืออไร
ก. คํานวณการเพิ่มระยะเวลารอคอย
ข. เกิดการส่งพร้อมกันแล้วจะก่อให้เกิดการชนกันของข้อมูล
ค. การรับ/ส่งข้อมูล
ง. ความหมายที่มีอยู่ทั่วไปของอีเทอร์เน็ต

7. อีเทอร์เน็ตและ IEEE 802.3 ร่วมกัน ซึ่งหมายถึงอะไร
ก. อีเทอร์เน็ตจะอ้างถึงเครือข่ายต่าง ๆ
ข. อีเทอร์เน็ตได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยบริษัทซีร็อกซ์
ค. เป็นคำที่สามารถใช้แทนความหมายเดียวกันได้
ง. ที่ตั้งอยู่บนนพื้นฐานของมาตรฐาน IEEE 802.3 นั้นเอง

8. ใครเป็นผู้ร่างแบบเครือข่ายอีเทอร์เน็ตขึ้นมาครั้งแรก
ก. Robert Metcalfe
ข. Digital Eqripment
ค. In-house Tecgnolohy
ง. Packet Radio

9. อีเทอร์เน็ตได้พัฒนามาจากรากฐานบนเครือข่ายอะไร
ก. Robert Metcalfe
ข. Digital Eqripment
ค. In-house Tecgnolohy
ง. Packet Radio

10. อีเทอร์เน็ตใช้สายอะไรเพื่อต่อกับคอมพิวเตอร์หลาย ๆ เครื่อง
ก. สายดาต้า
ข. สายเคเบิล
ค. สาย USB
ง. สายโทรศัพท์


ข้อสอบ ปรนัย 10 ข้อ ( พร้อมเฉลย )
เครือข่ายอินเทอร์เน็ต
1. อีเทอร์เน็ต คืออะไร
ก. การรับ/ส่งข้อมูลในเครือข่าย
ข. ความหมายที่มีอยู่ทั่วไปของอีเทอร์เน็ต
ค. อัตราความเร็วสูงเป็นช่วงๆ
ง. เวลาที่ใช้ในการรอคอยนั้นเป็นค่าที่สุ่มขึ้นมา

2. Exponential มีชื่อเรียกอีอย่างหนึ่งว่าอะไร
ก. Carrier Sense
ข. Multiple Access
ค. Collision
ง. Carrier Sense Multiple Access with Collision Detection (CSMA/CD)

3. ก่อนจะทําการส่งข้อมูลออกไปอีกครั้งหนึ่ง เวลาที่ใช้ในการรอคอยนั้นเป็นค่าแบบใด
ก. คาดคะเน
ข. คิดขึ้นเอง
ค. สุ่มขึ้นมา
ง. ถามคนอื่น

4. ใน ปีค.ศ. 1985 ทาง IEEE ก็ได้ เริ่มพัฒนาโครงการ อะไรขึ้นมา
ก. 802
ข. 803
ค. 804
ง. 805

5. บริษัทซีร็อกซ์ของเขา ได้ท้าทายความสามารถด้วย วิธีการใด
ก. พัฒนาอยู่ในรูปแบบของ In-house Tecgnolohy
ข. แรกเริ่ม อีเทอร์เน็ตได้ใช้สายเคเบิลเส้นเดียวเพื่อต่อกับคอมพิวเตอร์หลาย ๆ เครื่อง
ค. พัฒนาโครงการ 802 ขึ้นมา
ง. การพัฒนาเทคโนโลยีเครือข่ายที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานบนโทโพโลยีแบบบัส (Bus Topolofy)

6. ในการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุดได้กี่ เมกะบิตต่อวินาที
ก. 3 เมกะบิตต่อวินาที
ข. 4 เมกะบิตต่อวินาที
ค. 5 เมกะบิตต่อวินาที
ง. 6 เมกะบิตต่อวินาที






7. การนำข้อมูลแบ่งออกเป็นส่วน ๆที่เรียกว่าอะไร
ก. “บ๊อกเกต”
ข. “แพ็กเกต”
ค. “พ๊อกเกต”
ง. “แบ็กเกต”

8. MAC sub layer ใช้เทคนิคที่เรียกว่าอะไร
ก. physical layer
ข. Broadband
ค. CSMA/CD
ง. frame type

9. Token Package ในการเชื่อมต่อ มีความเร็ว เท่าไร
ก. 2,3 และ 10
ข. 1,4 และ 12
ค. 1,2 และ14
ง. 1, 4, และ 16

10. อีเทอร์เน็ตนั้นใช้วิธีการส่งสัญญาณแบบใด
ก. เบสแบนด์
ข. ดาวเทียม
ค. เสาอากาศ
ง. เครือข่ายโทรศัพท์

วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2551

ส่งงาน วันอังคาร ที่ 17 มิถุนายน 2551

ฃ้อ1. CIDR table class A,B,C

1.1) Class A N.H.H.H
11111111.110000000.00000000.00000000
Mark Subnet mark Subnet Host Subnet*host
2 255.192.0.0 2 4,194,302 9

*****************************************************************************

1.2) Class B N.N.H.H
11111111.11111111.11111100.00000000
Mark Subnet mark Subnet Host Subnet*host
7 255.255.254.0 126 510 64,260

*****************************************************************************

1.3) Class C N.N.N.H
11111111.11111111.11111111.11110000
Mark Subnet mark Subnet Host Subnet*host
5 255.255.255.236 30 8 240

*****************************************************************************

ข้อ2. ออกข้อสอบ อัตนัย (พร้อมเฉลย) 10 ข้อ

2.1 Mark 2 bit ได้ Class A ได้กี่ subnet
= 2^2 = 4-2 = 2 subnet

2.2 Mark 4 bit ได้ Class A ได้กี่ subnet
= 2^4 = 16-2 = 14 subnet

2.3 Mark 5 bit ได้ Class A ได้กี่ subnet
= 2^5 = 32-2 = 30 subnet

2.4 Mark 6 bit ได้ Class A ได้กี่ subnet
= 2^6 = 64-2 = 62 subnet

2.5 Mark 7 bit ได้ Class A ได้กี่ subnet
= 2^7 = 128-2 = 126 subnet

2.6 Mark 8 bit ได้ Class A ได้กี่ subnet
= 2^8 = 256-2 = 254 subnet

2.7 Mark 9 bit ได้ Class A ได้กี่ subnet
= 2^9 = 512-2 = 510 subnet

2.8 Mark 10 bit ได้ Class A ได้กี่ subnet
= 2^10 = 1,024-2 = 1022 subnet

2.9 Mark 11 bit ได้ Class A ได้กี่ subnet
= 2^11 = 2,048-2 = 2046 subnet

2.10 Mark 12 bit ได้ Class A ได้กี่ subnet
= 2^12 = 4,096-2 = 4094 subnet

3. ออกข้อสอบ ปรนัย (พร้อมเฉลย) 10 ข้อ

3.1








วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2551

เรียน วันอังคาร ที่ 10 มิถุนายน 2551

skip to main | skip to sidebar
วันพุธ, มิถุนายน 11, 2008
เรียนวันอังคารที่ 10 มิถุนายน 2551
1.Post Blog (copy URL เพื่อน Post )

YYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYY

From: Chaloempol Yokyuth (geng_gtr@hotmail.com)
http://chaloempol.blogspot.com/

YYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYY

From: Parina Polngam (nongnanfar@hotmail.com)
http://parina-nang.blogspot.com/

YYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYY

From: ณัฐวุฒิ วรรณา (kon.jai.ray@hotmail.com)
http://e-wutdy.blogspot.com/

YYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYY

From: วีระชัย ชินทอง (weerachaidong@hotmail.com)
http://weedong.blogspot.com/

YYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYY

From: ศิริลักษณ์ ใจโชติ (tum.naruk@hotmail.com)
http://pinkzosay.blogspot.com/

YYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYY

From: นางสาวธนาภา บุญร่วม (tip21_@hotmail.com)
http://tanapa.blogspot.com/

YYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYY

From: ความรักทำให้คนตาบอด บูดาเบส (b_boy.eg@hotmail.com)
นายเอกวิทย์ ประทีปธนากร 491225226
http://ekawit.blogspot.com/

YYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYY

From: pornpun intanun (nuthicha@hotmail.com)
http://nuthicha.blogspot.com/

YYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYY

From: นางสาวสุนันทา จันมนตรี (rosri21@hotmail.com)
http://rosri.blogspot.com/

YYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYY

From: นิโรบล ศรีวิชัยยศ (tanoy17@hotmail.com)
http://yakumi-tanoy.blogspot.com/

YYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYY

From: ธวัชชัย ปรือปรัง (sek.7@hotmail.com)
http://dekduecub.blogspot.com/

YYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYY

From: นายสุวัฒน์ บัวจันทร์ (kero_pee_1@hotmail.com)
http://keropee.blogspot.com

YYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYY

From: ประครอง วันทะวงษ์ (auto_7991@hotmail.com)
http://roseka.blogspot.com/

YYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYY

From: ชัชวาล ถิ่นนาไห (dexonhud@hotmail.com)
URL: http://chadchawal.blogspot.com/

YYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYY

From: สมปอง แสงสิงห์ (sompong.sangsing@hotmail.com)
http://sompong19.blogspot.com

YYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYY

From: ธงชัย ราชสิฃห์ (pktp_9@hotmail.com)
http://dexhudmai.blogspot.com/

YYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYYY

From: วิทยา สุดหล้า (teawit.la@hotmail.com)
http://longchimyung.blogspot.com/

2.สรุป basic ‘s datacommunication
Communication การย้ายข้อมูลจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง เพื่อให้เกิดประโยชน์เทคโนโลยีสมัยนี้มีการเชื่อมต่อกันทั่วโลก
Why Study Data Communication?
เพื่อที่จะได้วิธีการย้ายข้อมูลที่ถูกต้อง และในสมัยก่อนมีความลำบากมากในการสื่อสาร จึงนำมาเป็นตัวแทนในการสื่อสาร
นิยามการสื่อสารข้อมูล
การสื่อสารข้อมูล หมายถึง กระบวนการถ่ายทอด หรือการรับ-ส่งข้อมูล จากจุดใดจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ผ่านสื่อชนิดใดๆก็ได้ โดยข้อมูลจะหมายถึง ข้อความ รูปภาพ หรือสัญลักษณ์ก็ได้ การสื่อสารข้อมูลโดยปกติเกิดขึ้นระหว่าง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ 2 เครื่องขึ้นไป


3.OSI Model

แบบจำลอง OSI Model

Destination Source
7 Applpication Applpication
6 Presentation Presentation
5 session session
4 Transport Transport
3 Network Network
2 data Link data Link
1 Physical Physical


4.Basic’s IP Address

มีขนาด 32 บิต
ประกอบด้วยเลข 2 ส่วน
เลขเครือข่าย (network number)
เลขโฮสต์ (host number)
รูปแบบการเขียน “dotted decimal”
แบ่งเป็น 4 ไบต์
คั่นแต่ละไบต์ด้วยจุด (dot)

เราเตอร์ (Router)
ใช้เลขเครือข่ายเลือกเส้นทางส่ง packet
โฮสต์ที่มี netid ชุดเดียวกัน
จะอยู่เครือข่ายเดียวกัน
สื่อสารกันได้โดยใช้เฟรม data-link
ไม่ต้องใช้เราเตอร์

โฮสต์ที่มี netid ต่างกัน
จะอยู่ต่างเครือข่าย
เราเตอร์จะส่ง packet ข้ามเครือข่าย

5.แปลง IP
–29.143.26.68
–98.68.72.85

29.143.26.68= 00011101.10001111.00011010.01000100
98.68.72.85= 01100010.01000100.01001000.01010101

6.CIDR
•/23
•/15
•/18

/23= 11111111.11111111.11111110.00000000
subnet=255.255.254.0
host=2^9=512-2=510host

/15= 11111111.11111110.00000000.00000000
subnet=255.254.0.0
host=2^17=131,072-2=131,070host

/18= 11111111.11111111.11000000.00000000
subnet=255.255.192.0
host=2^14=16,384-2=16,382

วันจันทร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2551

นางสาวพรพรรณ อินทนันท์
รหัสนักศึกษา 4912252237
เบอร์โทร 08-50234130


P 50 0101 0000
O 4F 0100 1111
R 52 0101 0010
N 4E 0100 1110
P 50 0101 0000
U 55 0101 0101
N 4E 0100 1110

I 49 0101 1001
N 4E 0100 1110
T 54 0101 0100
A 41 0100 1000
N 4E 0100 1110
U 55 0101 0101
N 4E 0100 1110

4 34 0011 0100
9 39 0011 1001
1 31 0011 0001
2 32 0011 0010
2 32 0011 0010
5 35 0011 0101
2 32 0011 0010
2 32 0011 0010
3 33 0011 0011
7 37 0011 0111

0 30 0011 0000
8 38 0011 1000
5 35 0011 0101
0 30 0011 0000
2 32 0011 0010
3 33 0011 0011
4 34 0011 0100
1 31 0011 0001
3 33 0011 0011
0 30 0011 0000